นิยายเรื่องใหม่
ยินดีให้นวนิยายเรื่องนี้เผยแพร่ไปในโลกออนไลน์ แต่ห้ามนำไปตีพิมพ์หรือแสวงหากำไร เพราะคนเขียนยินดี อิ่มและอดอยู่กับหมา 8 ตัว เพื่อเขียนนวนิยายเรื่องนี้ ซึ่งน่าจะยาวมาก โดยไม่มีสิ่งตอบแทนใดๆ จากใคร นอกจากสนองตัณหาของตัวเอง
ตอนแรกผมตั้งชื่อตัวละครเอกเรื่องนี้ว่า สุปันโน แต่เขียนเสร็จก็เปลี่ยนเป็นสิริมโน นันโท แต่เปลี่ยนไม่หมด ขออภัยที่ทำให้การอ่านสะดุด (ถ้ามีใครอ่าน) นอกาจกนี้ก็มีคำถูกคำผิดที่ผมมองไม่เห็น แต่คาดว่ามือเทพในโลกออนไลน์อ่านได้ไม่ยาก แต่ก็เสียอารมณ์อยู่ดี ผมเขียนสดๆในเพจนี้เลย ไม่มีฉบับร่าง และยังไม่รู้ว่าจะดึงไปเก็บได้อย่างไร เผื่อเอาไว้รวมเล่มหากิน สะดวกเมื่อไหร่เขียนก็เมื่อนั้น สั้นบ้างยาวบ้าง ดีกว่าถอนใจไปวันๆ
ใคร ที่เป็นแฟนเสื้อแดงหรือเป็นเสื้อแดง รวมทั้งสีอื่นๆ ผมขอประกาศให้ทราบว่า ผมไม่มีเจตนาจะทำลายใคร ผมเขียนไปตามประวัติการณ์ที่เห็นบวกกับจินตนาการและการวิเคราะห์ และผมขอยืนยันหลักการที่ว่า “ไม่กินไก่ทั้งตัว” คือกินได้กระทั่งขี้ของมัน คือไม่เห็นฝ่ายใดถูกหมดหรือผิดหมด
นวนิยายเรืองนี้แม้นำเหตุการณ์ท างการเมืองมาเขียน แต่สุดท้ายผมเสนอให้ไปพ้นจากการเมืองแบบนี้ คือ ในยุคทักษิณครองเมือง เป็น “ประชาธิปไตยการตลาด” ในยุคอภิสิทธิ์ เป็น “ประชาธิปไตยกวาดตลาด” วนเวียนอยู่ที่การแย่งชิงอำนาจและผลประโยชน์กันอยู่นั่นแล้ว มวลชนของตนก็ตามแห่แหนด้วยความหวัง…แต่ตอนนี้เขากำลังเกี๊ยะเซียะในนาม ของความปรองดองอยู่ เพราะเห็นแล้วว่าทำลายล้างกันก็ไม่ได้ประโยชน์ สู้แบ่งผลประโยชน์กันดีฝ่า (พวกกลุ่มทุนขนาดใหญ๋ทั้งหลาย) บรรดาเสื้อสีทั้งหลายทำใจไว้บ้างก็ดี หรือใครจะเห็นว่าฝ่ายตนเป็นวีรบุรุษกู้ชาติ หรือเป็นเทพองค์ใหม่ก็เชิญตามอัธยาศัย ผมไม่กินไก่ทั้งตัว โดยเฉพาะไก่เป็นโรคกาลี อันเป็นผลมาจากความตะกละตระกลามของพวกมัน
เขียนเรื่องการเมืองเหมือนมีอคติ…มีครับ แต่ไม่ใช่กับการเมือง เพราะถึงอย่างไรเราก็หนีไม่พ้นการเมืองไปได้ แต่มีอคติกับนักการเมืองจำนวนมากที่ไม่ทำภาระหน้าที่ตามที่เราต้องการ คือเลือกพวกเขาไป ถ้าพวกเขาทำก็ต้องคิดถึงประโยชน์ตนก่อนอีก แต่ในขั้นตอนพัฒนาการเมืองมันก็ดีกว่าวิธีอื่น เช่น รัฐประหาร ในตอนนี้ประชาธิปไตยเลวน้อยกว่าระบบการเมืองอื่น
สิ่งที่เขียนมาทั้งหมด และจะเขียนต่อไป ไม่ว่าผมคิดผิดหรือถูก มันจะถูกแปรไป
(1) เป็นนวนิยายการเมืองเรื่องหนึ่ง คนชอบอ่านและชอบเขียนลองตามดูนะครับว่ามันจะถูกแปรได้อย่างไร บางทีอาจช่วยให้เข้าใจวิธีเขียนหนังสือหรือไม่ก็อ่านสนุกขึ้นก็ได้ (หรือตรงกันข้าม – ถ้าผมล้มเหลวเอง)
(2) ประเด็นหรือแก่นของเรื่องคือ เป็นมนุษย์ต้องมีมนุษยธรรม/ศีลธรรม และต้องพัฒนาจนถึงการบรรลุถึงอิสรภาพ(ที่แท้จริง)
(3) โครงเรื่องว่าด้วยเหตุการณ์การเมืองในยุคปัจจุบัน ที่ส่งผลสะเทือนไปถึง “คนที่เฝ้ามอง” นักการเมืองแย่งชิงอำนาจกันอย่างโหดเหี้ยม (ก็แม่งฆ่ากันกลางเมือง) แกนนำหรือผู้นำแต่ละฝ่ายต่างก็รู้แก่ใจดีว่าความรุนแรงและสูญเสียจะเกิดขึ้น แต่เขาก็ทำ เพื่ออำนาจและผลประโยชน์ในนาม “ประชาชน”
ฝ่ายประท้วงบีบ คั้น ปฏิเสธข้อเสนอของฝ่ายรัฐบาลทั้งที่รู้ว่าสู้ต่อไปต้องบาดเจ็บล้มตาย ส่วนฝ่ายตรงข้ามก็รู้ว่าส่งทหารเข้าขอคืนพื้นที่- กระชับพื้นที่…มวลชนฝ่ายประท้วงก็ต้องบาดเจ็บล้มตาย – ผู้นำทัังสองฝ่ายรู้แก่ใจดี แต่ทำ! คนที่ฝ้าดูนักเสพอำนาจแย่งชิงอำนาจกันบนซากปรักหักพังของมวลชนจึงออกมา เรียกร้องมนุษยธรรม แต่เขาโดนจับและถูกทรมานโดยพวกถืออำนาจรัฐ และนี่เป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาจิตวิญญาณของ “ผู้ถูกทรมาน” ตลอดช่วงเวลาที่ถูกทรมานอย่างยาวนาน เขาเป็นชายวัย 80 ปี เป็นอนุอรรถกถาจารย์ ท้ายสุดเขาข้ามพ้นความเจ็บปวดทั้งปวง ทั้งกายและใจ บรรลุถึงอิสรภาพโดยสมบูรณ์ แต่ระหว่างการถูกทรมานน้ันจะมีเรื่องการเมือง ปรัชญา ชีวิต ความรู้และไม่รู้ อุดมคติ และอื่นๆ
เอปิคิวรุสพูดว่า “รัฐเป็นความชั่วร้ายที่จำเป็น” โอเค. เราจำเป็นต้องมีรัฐ แต่ต้องทำให้มันชั่วร้ายน้อยที่สุด อย่าเชื่อพวกนักเสพติดอำนาจ ไม่ว่าฝ่ายไหน พวกไหนทั้งนั้น พวกเขาทำเพื่อผลประโยชน์ของพวกเขาเป็นหลัก มวลชนเป็นเสมือน “หมาล่าเนื้อ” ได้กินก็แค่กระดูก!
นิยายเรื่องใหม่ ตอนแรก
ก่อนวันที่ท่านสิริมโน นันโทจะโดนจับไปนั้น ตอนตีสองได้มีกองกำลังทหารประมาณ 50 คนพร้อมอาวุธครบมือ กับรถถังอีกหนึ่งคันเข้ามาจอดอยู่ที่หน้าวัด...
read more